เมื่อตอนอายุ 29 ปี ก้อบอกกับตัวเองว่า เิริ่มแก่แล้วแหล่ะ ไหน ๆ ก็มีหนุ่มมาตกหลุมพรางแล้ว เอางี้ดีกว่า ถามเลยแล้วกันจะอยู่ด้วยกันมั้ย เออ...ถ้าอย่างไงแล้วเราเอาดวงไปดูกันก่อนไหมว่าเราเนื้อคู่กันหรือเปล่า รับรองร้อยนึงเอาเก้าสิบ เป็นอย่างนี้ทุกราย เอาดวงไปดูกับหมอดู ใครบอกว่าเป็นเนื้อคู่กันอยู่ด้วยกันแล้วดี รับรองดีใจจนเนื้อเต้น แต่ถ้าหมอดูทักว่าไม่ดี และหมอดูที่ว่าก็แม่นมาก...ในการทำนาย เสร็จกันคราวนี้ ใครยอมรับได้ก็จัดพิธีแต่ถ้ายอมรับไม่ได้ก็ทนกันไป จนถึงวันที่เลิกกันแล้วมาบอกกันว่า ก็หมอดูเขาบอกแล้วไม่เชื่อเขาเอง
เคยได้ยินว่าเขามีเนื้อคู่หลายประเภท เนื้อคู่แท้ เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน และจะอยู่ด้วยกันดีส่งเสริมกัน เนื้อคู่แบบคู่เวรคู่กรรม อย่างไงไม่รู้แหล่ะอยู่ด้วยกันและเลิกกันไปในที่สุด คือหมดเวรหมดกรรมกันแล้วก็เลิกร้างกันไป คู่สร้างคู่สม คือเกิดมาอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้แล้วแต่ว่าจะได้ทำกรรมดีต่อกัน อยู่ด้วยแล้วเสริมชีวิตได้ อันนี้ก็แล้วแต่คนอีกเหมือนกัน แต่ก็เชื่อในคำกล่าวของธรรมะอีกแหล่ะว่า คำว่าความบังเอิญไม่มีอยู่จริง สิ่งที่ทำให้เราได้มาอยู่ร่วมกัน ก็คือสิ่งที่เราเคยกระทำมาร่วมกันเมื่อในอดีต
ตามหลังทางพระพุทธศาสนาได้ระบุว่า คนที่่จะเกิดมาเพื่อคู่กันตลอดจะต้องมี ศีล ปัญญา จาคะ เสมอกัน ถึงจะได้ตามมาอยู่เป็นคู่กันทุกชาติไป ไม่เช่นนั้นแล้ว เนื้อคู่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอแล้วแต่ว่าผลที่เคยทำร่วมกับใครมา และสนองผลเช่นใด ใครที่สงสัยว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วไม่ดี ทำอย่างไรจะให้เราอยู่ด้วยกันดี อันนี้ก็ต้องกลับไปถามตัวเองว่า คาดหวังอะไรกับเขาหรือคู่ของคุณมากเกินไปหรือเปล่า และผลที่เราจะได้อยู่ด้วยกันน่ะเราเสมอกันมั้ย เคยไปทำบุญร่วมกันหรือเปล่า ตักบาตรร่วมขัน ทำบุญร่วมชาติน่ะ เคยมั้ย ถ้าไม่เคยไปทำซะ แล้วก็ไปบุญร่วมกันแล้วก็อธิษฐานขอผลบุญนี้ทำให้ข้าพเจ้าและคู่อยู่กันอย่างมีความสุข เพราะ....เรื่องบังเอิญไม่เคยมีอยู่จริง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น